Monday, July 9, 2012

ไมโครสต็อก ถ่ายจริง ขายจริง รับเงินจริง :)

สวัสดีหน้าฝนของเมืองหลวงอันมืดครึ้มแต่เช้า แต่ก็ยังโชคดีที่ไม่มีภารกิจต้องออกไป Outdoor ที่ไหน เลยมีเวลานั่งเขียนบล็อกเล่าประสบการณ์เล็กๆ ดั่งที่ได้พาดหัวเรื่องไว้ว่า "ไมโครสต็อก ถ่ายจริง ขายจริง รับเงินจริง" ผมจะเล่าตั้งแต่ต้นยันจบกระบวนการของภาระกิจขายรูปออนไลน์กันเลยน่ะครับ
(ต้องขออนุญาติปิดข้อมูลบางส่วน เพื่อความเหมาะสมสำหรับการแชร์ข้อมูลผ่านอินเทอร์เน็ต)


2 พฤษภาคม 2553
ได้เดินเจอหนังสือ "แชะ รวยทะลุเลนส์ ถ่ายภาพขายออนไลน์ ธุรกิจสร้างเงินล้าน" เขียนโดย สุระ นวลประดิษฐ์ ในร้านหนังสือแห่งหนึ่ง เป็นสิ่งที่ผมอยากรู้มานานมากเกี่ยวกับวงการซื้อ-ขายรูป เพราะชอบดูรูปจากเว็บสต๊อกรายใหญ่ของโลก GettyImages และ Corbis อยู่บ่อยๆ แล้วเห็นฝรั่งเค้าขายรูปกันแพงๆ ไม่เว้นแม้แต่รูปที่ถ่ายจากเมืองไทย

photo credit: se-ed.com


6 พฤษภาคม 2553
พออ่านหนังสือจบ รู้สึกร้อนวิชาอย่างแรง ก็เลยไปควานหา CD รูปถ่ายเก่าๆ ของผม ที่เก็บไว้อย่างมากมาย มาเลือกรูป(ที่คิดว่าดีที่สุด) เพื่อลองส่งรูปไปสอบกับเว็บไมโครสต๊อกที่หนังสือแนะนำ และแน่นอนผมก็ได้เริ่มลองของกับที่แรกก่อนเลย Shutterstock นั่นเอง หลังจากกรอกข้อมูลเบื้องต้นและเบื้องลึกไปหมดแล้ว ทาง Shutterstock จะส่งอีเมลขอบคุณมาให้ดังรูปที่ 1

Figure 1  Email "Shutterstock Submission program"

ก่อนส่งรูปไปสอบเมื่อสองปีก่อนทาง Shutterstock จะให้ Contributor ส่งรูป ID ของคนนั้นไปให้ทาง Shutterstock ตรวจสอบเพื่อยืนยันตัวตน ID ที่ว่านี้ก็คือรูป Passport (เฉพาะหน้าที่มีรูปเราอยู่) สำหรับรูปบัตรประชนหรือรูปใบขับขี่ ฯลฯ ทางเค้าไม่รับ ดังนั้นก็ต้องทำ Passport เตรียมกันไว้ก่อนด้วยน่ะครับ ^^


7 พฤษภาคม 2553
มีอีเมลจากทาง Shutterstock แจ้งผลการอนุมัติ ID ว่าผ่านแล้ว ก็สำเร็จไปอีกหนึ่งด่านครับ ดังรูปที่ 2

Figure 2  Email "ShutterStock ID  approval"


8 พฤษภาคม 2553
หลังจากนั้นทางผมก็สามารถ Upload รูป 10 รูปขึ้นไปสอบได้เลย โดยจะต้องผ่าน 7 รูปขึ้นไปถึงจะสอบผ่านครับ การส่งรูปทุกครั้งไม่ว่าจะกี่รูปทาง Shutterstock จะเรียกรวมเป็นล็อตของการส่งว่า "batch" และจะส่งอีเมลมาแจ้งว่าได้หมายเลข batch อะไรเอาไว้อ้างอิง ซึ่งจะระบุข้อความไว้ในอีเมลเสมอว่าต้องรออย่างน้อย 72 ชั่วโมงในการอนุมัติผล หรือประมาณ 3 วันทำการ แต่อาจจะเร็วหรือช้ากว่านี้ก็เป็นเรื่องปกติครับ

Figure 3  Email "Shutterstock Submission"


เวลาผ่านไปไม่ถึง 24 ชั่วโมง ผมก็ได้รับอีเมลแจ้งมาว่าภาพผมผ่านการพิจารณาแล้ว ผลสอบผ่านแบบฉิวเฉียด 7 ภาพพอดี รอดอย่างหวุดหวิด ส่วนอีก 3 ภาพที่ไม่ผ่านก็โดนข้อหามี Noise เยอะเกินไปและ Composition ไม่ดี ดังรูปที่ 4

Figure 4  Email "Your account has been approved"


หลังจากรูปถ่ายผมได้ผ่านการอนุมัติและได้วางขายออนไลน์ 7 รูปแรก ในวันนั้นก็มียอดขายเข้ามาเลยทันที 4 downloads สุดยอด ดีใจมากแบบบอกไม่ถูกจริงๆ มันเป็นก้าวเล็กๆที่ภูมิใจมากครับ

หลังจากทะลุผ่านด่านการสอบเข้าไปได้ ผมก็เริ่มกระบวนการส่งภาพไปขายอย่างบ้าคลั่ง ต้องใช้คำว่าบ้าคลั่งไม่ผิดจริงๆ เพราะตั้งแต่วันที่ 9-31 พ.ค. 2553 จาก 22 วันผมส่งรูปกระหน่ำไป 40 batchs หรือ 40 ครั้ง ครั้งละ 10-30 รูป พอถึงสิ้นเดือนผมมีรูปที่ผ่านการพิจารณาและวางขายออนไลน์ 425 รูป แล้วรูปบางรูปคงบังเอิญไปโดนใจผู้ซื้อเข้าให้(คิดว่าน่ะ) เลยขายไป 313 downloads ทำให้ได้ยอดเงินร้อยกว่าเหรียญ ผมยิ้มปลื้มไปทั้งวันเลยพี่น้องช่วงนั้น ^^

และแน่นอนช่วงนั้นก็ไม่พลาดที่จะสมัคร 123rf, Fotolia และ Dreamstime และส่งรูปเซ็ตเดียวกับที่ส่งกับ Shutterstock ควบคู่กันไปตลอดครับ


20 พฤษภาคม 2553
ในเว็บของ Shutterstock ส่วนของ Contributor จะมีข้อความขึ้นมาแนะนำให้ไปกรอกรายละเอียดสำหรับการเสียภาษี เพราะถ้าไม่กรอกให้เรียบร้อยก่อนจะไม่สามารถเบิกเงินได้ จึงเข้าไปหาอ่านในเว็บของคุณสุระ (www.stockphotothailand.com) จึงได้ความว่าให้เลือกกรอกในเอกสารแบบฟอร์มหมายเลข "W-8 BEN" ซึ่งเป็นแบบฟอร์มสำหรับผู้ขายภาพที่ไม่ได้อาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกา ดูตัวอย่างดังรูปที่ 5 (ผมขอนุญาติปิดข้อมูลบางส่วนน่ะครับ)

Figure 5  Online W-8 BEN Form

1 มิถุนายน 2553
พอขึ้นเดือนใหม่ ผมปิดยอดขายของเดือน พฤษภาค 2553 ได้เกินร้อยเหรียญมานิดหน่อย ดังตารางสรุปสถิติการขาย

Figure 6  Download Stats
และเมื่อเข้าไปดูในหัวข้อ "Payment History" ซึ่งทาง Shutterstock จะสรุปให้ว่ายอดขายรวมเท่าไหร่ เป็นผู้ซื้อในสหรัฐอเมริกาเท่าไหร่ และนอกประเทศเท่าไหร่ แล้วยอดรายได้สุทธิได้ที่เท่าไหร่ ในเดือนนี้ของผมโดนหักภาษีไป 1.88$ แล้วมีรายได้สุทธิ 110.13$ ดังรูปที่ 7

Figure 7  Payouts to Date


9 มิถุนายน 2553
ผ่านไปประมาณอาทิตย์นึงก็จะอีเมลจาก Shutterstock มาหาว่าได้โอนเงินให้คุณแล้วน่ะจ๊ะ โดยโอนให้ตามบัญชี PayPal ของผมที่ได้กรอกไว้แล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้ผมก็สมัคร PayPal ไว้ก่อนหน้าเป็นปีแล้ว ตอนนั้นอยากขายของบน eBay แต่ยุ่งๆ จนป่านนี้ก็ยังไม่ได้ขายที่อีเบย์ซักที แต่ก็ยังดีที่ได้เงินจากไมโคร
สต๊อกซ่ะก่อน :)

Figure 8  Email "Shutterstock Payout"

จากนั้นผมก็รีบเข้า PayPal ไปเช็คยอดเงินเลยทันที อยากรู้ว่าเงินเข้าจริงป่าว ไม่น่าเชื่อ เงินเข้าแล้วจริงๆด้วย 555+ แต่ยอดเงินที่เห็นยังเอามาใช้งานไม่ได้ เพราะยังอยู่ในบัญชีธนาคารออนไลน์อย่าง PayPal ซึ่งเราต้องโอนออกมาอยู่ในธนาคารท้องถิ่นก่อน พอลองสำรวจวิธีการโอนออก เราต้องใส่รายละเอียดบัญชีธนาคารที่เราจะโอนเงินออกเข้าไปใน PayPal ก่อน และพอใส่เรียบร้อยแล้ว พอจะโอนเงินออกก็มีเงื่อนไขการจ่ายค่าธรรมเนียมให้กับ PayPal กรณีเงินที่โอนออกยอดไม่ถึง 5,000 บาท เราต้องเสียค่าธรรมเนียม 50 บาท แต่ถ้ามากกว่านั้นก็โอนออกฟรี หรือฟรีสำหรับธนาคารในสหรัฐฯ

Figure 9  การถอนเงินจาก PayPal

ค่าธรรมเนียม 50 บาทไม่ใช่ประเด็นมากกว่า ถ้าโอนแล้วเงินไม่เข้าบัญชีในไทยหล่ะ จะน่าเซ็งกว่าเนอะ เพราะที่กังวล เหมือนผมไปอ่านในเว็บคุณสุระว่า ชื่อบัญชี(ชื่อผมภาษาอังกฤษ)ใน PayPal กับชื่อบัญชี(ภาษาอังกฤษ)ของธนาคารในไทยจะต้องตรงกัน เพื่อจะไม่ให้เกิดปัญหาการโอนเงินไม่ได้ ผมเลยใช้วิธีทดลองก่อนในครั้งแรก โดยการโอนเงินออกครั้งแรกมากมาย สูงถึง 12.08$ คิดเป็นเงินไทยขณะนั้น 383.90 บาท (exchang rate 1$=31.7798 บาท) จะต้องหัก 50 บาทด้วย คงเหลือที่จะรับจริง 333.90 บาท

Figure 10  รายละเอียดการถอนเงินจาก PayPal


ทาง PayPal ก็จะส่งอีเมลแจ้งเราด้วยว่ากำลังโอนเงินไปให้ที่แบงค์สีม่วงน่ะ (รอหน่อย)

Figure 11  Email "เรากำลังโอนเงินไปยังธนาคารของคุณ"

Note: จริงๆ ผมก็ยังงงอยู่น่ะว่าอัตราแลกเปลี่ยนที่ทาง PayPal คิดให้ตอนนั้น 1$ = 31.7798 บาท เค้าเอาตัวเลขมาจากไหน เมื่อลองเข้าไปเช็คตารางอัตราแลกเปลี่ยนจากแบงค์สีม่วงช่วงนั้น (ดังรูปที่ 12) ก็ไม่เห็นว่าจะมีตัวเลข 31.7798 ให้เห็น (ใครรู้ก็บอกที งงอ่ะ)

Figure 12  SCB Currency Exchange Rates


14 มิถุนายน 2553
เมื่อได้เข้าไปเช็คยอดเงินเข้าที่เว็บไซต์ของแบงค์สีม่วง ที่ชื่อว่า "ธนาคารสีม่วงอันแสนง่ายดาย" (SCBeasy) ก็จะมีรายการเงินโอนเข้ามาจาก "Bank of America Nation" จำนวน 333.90 บาท เป็นอันโล่งอกว่าทุกกระบวนการเรียบร้อยเป็นอย่างดีครับ.... สบายใจจริงๆแท้เหลา


นี่เป็นตัวอย่างส่วนหนึ่งในการทำธุรกิจส่งออกของผมครับ...พี่น้องชาวไทย...
See you next time :)

24 comments:

  1. Replies
    1. ถ้าชอบแนวนี้ก็ลุยเลยครับ

      Delete
  2. เรื่องอัตราแลกเปลี่ยน ลองอ่านบทความนี้นะคะ คิดว่าน่าจะใช่นะคะ ^^

    http://www.thaiebaybible.com/marketing/maximize-your-money-from-paypal-withdrawal/

    ReplyDelete
    Replies
    1. ขอบคุณมากครับคุณ may อ่านแล้วครับ ดีมากเลย ผมเริ่มรู้แล้วครับว่าเงินหายไปไหน เพราะโดนข้อหานี้ครับ "ต้องเสียค่าธรรมเนียมการเปลี่ยนสกุลเงิน 2.5% ของอัตราแลกเปลี่ยนนอกประเทศ (Offshore)ด้วย" 555+

      Delete
  3. 1 ปีแล้ว ได้ 17 เหรียญ จาก 200 กว่าภาพ....แต่ก้อดี มีความสุขกับการถ่ายภาพ

    ReplyDelete
    Replies
    1. ใช่ครับคุณ Thai Smile ความสุขของช่างภาพก็อยู่ที่การถ่ายภาพ ส่วนถ้ามีรายได้เกิดขึ้นด้วย ก็คือกำไรแล้วครับ ^^

      Delete
  4. รบกวนสอบถามหน่อยสิครับ ว่ารูปที่เราส่งไปยังเว็บ Shutterstock แล้ว เราสามารถน้ำรูปชุดนี้ส่งไปยังเว็บอื่นอีกได้หรือไม่ครับ

    ReplyDelete
    Replies
    1. ใช่ครับ เราสามารถนำรูปเดิมนั้นส่งขายเว็บอื่นได้อีกครับ เพราะเว็บไมโครสต๊อกเกือบทุกแห่งเน้นขายแบบให้สิทธิผู้ซื้อรูป ยืมรูปไปใช้งาน (RF) ดังนั้นเราเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ จะเอาไปขายที่ไหนก็ได้ครับ ยกเว้นว่าเรากำหนดรูปถ่ายนั้นว่าให้ขายได้เฉพาะเว็บใดเว็บหนึ่งโดยเฉพาะ (Exclusive)

      Delete
  5. เข้ามาอ่านก่อนจะเบิก 100 เหร๊ยญแรก

    ReplyDelete
  6. กำลังศีกษาอยู่เลยครับ ขอบคุณสำหรับข้อมูล และ แรงกระตุ้น ครับ

    ReplyDelete
  7. กรอกข้อมูลแล้วคะ แต่ e-mail กับ password ไม่ผ่านไม่รู้ว่าเป็นอะไร

    ReplyDelete
    Replies
    1. กรอกที่เว็บไหนครับ และในขั้นตอนไหนครับ ขอข้อมูลเพิ่มนิดนึงครับ ผมเดาไม่ถูก 555+
      หรือไม่ก็เมล์รายละเอียดเพิ่มเติมมาก็ได้ครับ siamgeographic@gmail.com

      Delete
  8. แล้วรูปที่เราเอาขึ้ิน facebook แล้วนำไปขายได้มั้ยครับ

    ReplyDelete
    Replies
    1. ได้ครับ แต่ต้องเช็คขนาดของรูปให้มีขนาดไม่ต่ำกว่า 2700x1800 pixels น่ะครับ เพราะรูปที่อยู่บน fb ส่วนใหญ่จะมีขนาดเล็กไปหน่อยครับ

      Delete
  9. ขอบคุณที่ให้ความรู้นะครับ กำลังสนใจเลย

    ReplyDelete
  10. รบกวนถามน้องกรหน่อยนะครับ คือ เราต้องใส่ Description ทุกภาพหรือเปล่าครับ ถ้าต้องใส่ จะใส่อย่างไร เพราะผมใช้ Lightroom มันไม่เห็นมีช่องให้ใส่ Description เลยครับ

    ReplyDelete
    Replies
    1. สำหรับข้อมูล Title, Description และ Keyword ควรจะใส่ไว้ในภาพทุกภาพที่จะส่งขายเลยครับ ใส่แค่ครั้งเดียว หลังจากนั้นพอจะส่งภาพนั้นไปขายในหลายๆเว็บ ทางเว็บไมโครสต็อกเหล่านั้นก็สามารถดึงข้อมูลภาพไปใช้ได้เองโดยอัตโนมัติครับ ส่วนการใส่ Description ใน Lightroom ให้ใส่ที่ช่อง Metadata -> Caption

      Delete
  11. ดีมากเลยครับ ที่แชร์ประสพการณ์ให้กับเพื่อนช่างภาพ กุศลมากมาย สาธุ

    ReplyDelete
    Replies
    1. ขอบคุณครับคุณ Ake Prada ผมว่าแค่พอมีประโยนช์ก็พอแล้วครับ คำว่า "กุศล" มันดูยังไงๆไม่รู้ 555+

      Delete
  12. ขอบคุณสำหรับข้อมูลมากๆค่ะ ^^
    รบกวนสอบถามค่ะ
    ในการส่ง Passport ต้องขีดฆ่าเอกสารแล้วเขียนบนเส้นขีดฆ่าว่า "ใช้สำหรับการสมัคร Shutterstock เท่านั้น" เซ็นชื่อรับรองสำเนาถูกต้อง ต้องทำแบบนี้ถึงจะถูกต้องรึเปล่าค่ะ
    ขอบคุณค่ะ

    ReplyDelete
    Replies
    1. ไม่ต้องทำอะไรเลยครับถ่ายรูปหรือสแกนเล้วก็ upload ไปให้ทาง shutterstock ได้เลยครับผม ขออภัยที่ตอบช้านะครับ :)

      Delete