Tuesday, November 19, 2013

Shuttterstock เว็บสต็อกโฟโต้ชั้นนำของโลก (Part 1)

ถ้าจะให้พูดถึงเว็บสต็อกโฟโต้หรือไมโครสต็อกชั้นนำของโลก ณ จุดนี้ คงหนีไม่พ้นเว็บ Shutterstock เว็บเพิ่งที่ก่อตั้งมาได้ 10 ปี แต่ได้รับความนิยมของผู้ซื้อ (customers) และผู้ขาย (contributors) จากทั่วโลกเป็นอย่างมาก

http://www.shutterstock.com/?rid=591133
รูปที่ 1 - Shutterstock logo

ผมลองค้นดูแนวโน้มของกระแสความนิยมของ Shutterstock ใน "Google Trends" เมื่อเทียบกับเว็บเอเจนซี่ไมโครสต็อกระดับแนวหน้าด้วยกันอย่าง iStockphoto, Fotolia, Dreamstime และ 123rf ผลดังกราฟรูปที่ 2 จะเห็นว่าทิศทางการเติบโตของ Shutterstock ดีขึ้นอย่างมาก รองลงมาก็เป็น Fotolia และ 123rf ส่วนเว็บ iStockphoto จากเดิมเคยนำมากก่อน แต่ค่อนข้างจะแผ่วซ่ะแล้ว โดยระยะครึ่งปีหลังมานี้ iStockphoto มีการปรับกลยุทธ์มากมาย ตั้งแต่ลดราคาขายลงครึ่งราคา ปรับลดความเข้มงวดในการสอบเข้าก็น้อยลง และเพิ่มโควต้าการส่งรูปต่อสัปดาห์มากขึ้น เป็นต้น

รูปที่ 2 - กราฟเปรียบเทียบแนวโน้มของ 5 เว็บไมโครสต็อกชั้นนำ (ที่มา: Google Trends, เมื่อ 17 Nov 2013)

จากความโดดเด่นอย่างมากของเว็บ Shutterstock จึงทำให้น่าคิดว่าเขาใช้กลยุทธ์อะไรในการดึงช่างภาพ (photographers) ศิลปินรูปวาด (illustrators) และศิลปินวิดีโอ (videographers) ทั้งมือสมัครเล่นและมืออาชีพฝีมือดีจากทั่วโลกมาร่วมงานด้วย แล้วมีความพอใจกับส่วนแบ่งรายได้ที่ได้รับ

รูปที่ 3 - กราฟเปรียบเทียบแนวโน้มของเว็บไมโครสต็อกกับเว็บสต็อกโฟโต้แบบดั้งเดิม (ที่มา: Google Trends, เมื่อ 17 Nov 2013)

จากการแจ้งเกิดของวงการเว็บเอเจนซี่ไมโครสต็อก อาทิเช่น Shutterstock, iStockphoto, Fotolia เป็นต้น ทำให้เว็บเอเจนซี่สต็อกโฟโต้แบบดั้งเดิม (traditional stock) อย่าง Gettyimages และ Corbis ต่างก็มีแนวโน้มของกระแสความนิยมที่ตกลงเรื่อยๆ ดังรูปกราฟที่ 3 ระดับความนิยมของเว็บเอเจนซี่ยักษ์ใหญ่ทั้งสองตกลงสวนกระแสกับรุ่นน้องที่กำลังพุ่งแรง

จากข้อมูลข้างต้นผมเองก็ยังไม่เชื่อหรอกนะว่าเว็บ Shutterstock จะเป็นพระเอกในขณะนี้ จึงได้หาข้อมูล "Google PageRank" หรือตัววัดความสำคัญของเว็บโดยกูเกิล มีคะแนน 0 ถึง 10 และถ้ายิ่งมีเลขมากก็ยิ่งมีความสำคัญมาก และอีกตัววัดนึงเป็นค่า "Alexa Rank" หรือการจัดอันดับการเข้าชมเว็บจากทั่วโลกโดย alexa ซึ่งเว็บไหนมีตัวเลขยิ่งน้อยก็จะดีกว่าเว็บที่มีตัวเลขมาก

ผมได้รวบรวมเว็บไมโครสต็อกและเว็บสต็อกโฟโต้แบบดั้งเดิมเท่าที่ผมรู้จัก มาจัดเรียงอันดับความนิยมมากที่สุดไปหาน้อย อ้างอิงตามเกณฑ์ลำดับของทั้งสองค่ายดังที่กล่าวมา ตามตารางด้านล่างครับ

No. Stock Photos Google
PageRank
Alexa
Rank
1. Shutterstock 8 228
2. iStockphoto 7 350
3. 123rf 6 403
4. Fotolia 7 464
5.Dreamstime 7 727
6. Depositphotos 6 1,134
7. Bigstockphoto 6 2,087
8. Freedigitalphotos 7 2,259
9. Gettyimages 7 2,714
10. Photodune 6 3,194
11. Canstockphoto 6 4,451
12. Pond5 6 8,301
13. Colourbox 7 8,900
14. Corbis 7 9,139
15. Alamy 6 13,412
16. Veer 6 18,776
17. Yaymicro 4 19,434
18. Stockfresh 5 21,766
19. Graphicleftovers 5 35,876
20. Panthermedia 5 41,981
21. Kozzi 4 43,862
22. Crestock 5 45,345
23. Cutcaster 5 53,513
24. Pixmac 6 63,317
25. Mostphotos 4 74,087
26. Photokore 3 171,871
ตารางที่ 1 - การจัดอันดับเว็บสต็อกโฟโต้โดยใช้ Google PageRank และ Alexa Rank

ข้อมูลการจัดอันดับของผมเองใน 5 อันดับแรง เป็น Top 5 จากหนังสือของคุณสุระ ได้เขียนแนะนำไว้ นั่นคือ Shutterstock, iStockphoto, 123rf, Fotolia และ Dreamstime สำหรับช่างภาพหรือศิลปินรูปวาดท่านใด สนใจหารายได้จากเว็บสต็อกโฟโต้ ก็ให้เริ่มจาก 5 เว็บนี้ก่อนได้เลย รับรองไม่ผิดหวังครับ และถ้ามีเวลาว่างมากขึ้น ก็ทยอยส่งไปยังเว็บเอเจนซี่ที่เหลือได้เลย (ยกเว้น Gettyimages และ Corbis ที่มีการคัดกรอกช่างภาพอย่างเข้มงวด)

www.jonoringer.com
รูปที่ 4 - Jon Oringer (ที่มา: jonoringer.com)

เกริ่นนำความหล่อเท่ของ Shutterstock ไปแล้ว เรามาดูข้อมูลทั่วไปของบริษัท Shutterstock, Inc. กันซักนิดครับ เว็บ Shutterstock เริ่มออนไลน์ครั้งแรกเมื่อปี 2013 ก่อตั้งโดยนาย "Jon Oringer" มีสำนักงานอยู่ที่ New York, USA (ปัจจุบันมีพนักงานในบริษัทเกือบ 300 คน)

ปัจจุบันเว็บมีไฟล์พร้อมขายอยู่ที่ประมาณ 31 ล้านไฟล์ ประกอบด้วย ภาพถ่าย (photos), กราฟิกเวกเตอร์ (vector graphics), รูปวาด (illustrations) และคลิปวิดีโอ (video clips) ถูกผลิตขึ้นจากผู้ขายกว่า 40,000 รายทั่วโลก และมีลูกค้าทั่วโลกรอซื้ออยู่ประมาณ 750,000 ราย เว็บไซต์ให้บริการไปยัง 150 ประเทศ มีระบบภาษารองรับทั้งหมด 20 ภาษา ซึ่งหนึ่งในนั้นมี "ภาษาไทย" ด้วยครับ

บริษัท Shutterstock, Inc. เติมโตอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2009 บริษัทได้ซื้อกิจการเว็บไมโครสต็อกระดับกลาง "Bigstockphoto" และจากนั้นในปี 2012 ก็ได้เข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (NYSE) ในชื่อ "SSTK" (ดูกราฟราคาหุ้นได้ดังรูปที่ 7) ถัดมาก็เปิดให้เว็บแบรนด์น้องใหม่ที่ชื่อ "Offset" เพื่อเป็นเว็บให้บริการสต็อกโฟโต้ระดับคุณภาพเยี่ยม (premium stock photos) งานนี้ Shutterstock หวังปั้น Offset เข้าถ้าชนรุ่นพี่อย่าง Gettyimages และ Corbis อย่างไม่น่าสงสัย

รูปที่ 5 - หน้าแรกของเว็บ Shutterstock ระบบภาษาอังกฤษ

รูปที่ 6 - หน้าแรกของเว็บ Shutterstock ระบบภาษาไทย

จากเอกสารที่เผยแพร่สำหรับนักลงทุนในเว็บ Shutterstock ได้ยกตัวอย่างกลุ่มลูกค้าของบริษัทเอาไว้ อาทิเช่น บริษัท Apple, Oracle, Accenture, BCG, AOL, Universal, AP Associated Press, Barnes & Noble, ABC News, News Corporation,  McKinsey&Company, Corbis เป็นต้น (น่าแปลกใจที่ corbis ก็เป็นลูกค้าของ Shutterstock ^_^)

ข้อมูลของผู้ผลิตผลงาน (ประมาณ 40,000 ราย) ไปฝากขายที่เว็บ Shutterstock นั้น ก็มากมายเช่นกัน มีสถิติจากเว็บ Shutterstock ประมาณยอดไฟล์ใหม่ที่ผ่านการตรวจมีมากกว่า 150,000 ไฟล์ต่อสัปดาห์เลยทีเดียว ตกเดือนนึงมีไฟล์ใหม่ออนไลน์ในเว็บอยู่ที่ประมาณ 600,000 ไฟล์ เยอะมว้ากก...

รูปที่ 7 - กราฟราคาหุ้นของ Shutterstock (NYSE: SSTK)

ผมลองสำรวจจำนวนรูปในทุกหมวดหมู่ของเว็บ Shutterstock (ไม่รวมวิดีโอ) ดังตารางที่ 2 ก็เริ่มสังเกตเห็นว่ากระแสกราฟิกเวกเตอร์/รูปวาด กำลังมาแรงเรื่อยๆ อย่างเช่นหมวดหมู่ Illustrations/Clip-Art, Vector คือกลุ่มหลักๆที่สะสมงานประเภทนี้ไว้เยอะ และนอกจากนั้นในหมวดหมู่อื่นๆ รูปที่ติดอันดับขายดีก็มีรูปแนวเวกเตอร์ปะปนอยู่จำนวนมาก เท่าที่ประเมินด้วยสายตา รูปเวกเตอร์ขายดีกว่ารูปแนวภาพถ่ายประมาณ 2 เท่าเลยทีเดียวครับ

มองในแง่โอกาสของศิลปินนักวาดภาพแนว Illustrators ยังมีพื้นที่เปิดกว้างสำหรับท่านอยู่มาก ในส่วนช่างภาพก็ยังพอมีที่ยืนได้ถ้าผลงานเราโดดเด่น แปลกใหม่ ซึ่เว็บ Shutterstock นี้ยังเป็นขุมทองของนักล่าฝันอยู่น่ะครับ

หมวดหมู่ จำนวนรูป
(ล้านรูป)
Abstract 2.6
Animals/Wildlife 1.8
The Arts 0.7
Backgrounds/Textures 4.6
Beauty/Fashion 2.3
Buildings/Landmarks 1.6
Business/Finance 1.7
Celebrities 0.8
Editorial 1.9
Education 0.5
Food and Drink 3.8
Healthcare/Medical 0.9
Holidays 1.5
Illustrations/Clip-Art 8.5
Industrial 5.9
Interiors 3.5
Miscellaneous 1.1
Model Released Only 5.6
Nature 4.4
Objects 4.2
Parks/Outdoor 2.5
People 7.0
Religion 0.3
Science 0.1
Signs/Symbols 1.5
Sports/Recreation 1.1
Technology 0.8
Transportation 0.5
Vectors 4.1
Vintage 0.8
ตารางที่ 2 - จำนวนรูปในแต่ละหมวดหมู่ของเว็บ Shutterstock

เตรียมตัวกันก่อนที่จะลุยสมัครเป็นผู้ขายในเว็บ Shutterstock (Become a Contributor)
  •  ก่อนที่จะเป็น Contributor ที่นี่ได้ต้องผ่านการสอบคัดเลือกเสียก่อน โดยต้องส่งภาพถ่ายหรือรูปกราฟฟิกเวกเตอร์ไปสอบก่อน 10 ภาพ และต้องผ่าน 7 รูปขึ้นไป ถ้าสอบไม่ผ่านก็ต้องรอประมาณ 1 เดือน ถึงจะกลับมาสอบใหม่ได้
  • ในการส่งรูปไปสอบคัดเลือก ต้องแนบเอกสาร passport ไปพร้อมกันตั้งแต่ตอนสมัครสอบเลย ถ้าเอกสารไม่พร้อม ก็จะไม่ผ่านการพิจารณา
  • ภาพถ่ายหรือรูปแนว Illustrations กำหนดเป็นไฟล์ฟอร์แมต JPG มีความละเอียดขั้นต่ำที่ 4.0 ล้านพิกเซล (min. 4.0 megapixels)
  • กรณีเป็นไฟล์ vector กำหนดรับเป็นฟอร์แมต EPS มีขนาดใหญ่ไม่เกิน 15 MB (max. 15 MB)
  • กรณีเป็นคลิปวิดีโอ แนะนำส่งเป็นฟอร์แมต MPEG หรือ MOV ที่เป็นไฟล์ HD  หรือวิดีโอที่มีขนาดความละเอียดขั้นต่ำที่ 480 x 640 พิกเซล โดยมีความยาวไม่ต่ำกว่า 7 วินาที และไม่เกิน 60 วินาที

ในตอนแรกนี้ผมก็วิเคราะห์เบาๆ ตามความคิดตัวเองไว้แค่นี้ก่อน ส่วนบล็อกหน้า (ตอนที่2 คลิกอ่านได้แล้วครับ) เราก็มาลุยสมัครขายรูปที่ Shutterstock กันเลยครับ... ขอบคุณที่ติดตามกันน่ะครับ ^_^

1 comment: